July 2024


ระวังโดนภาษีย้อนหลัง เพราะเข้าใจผิดว่า จ่ายภาษีแล้ว ค่าบริการรวม Vat คืออะไร ลองมาดูคลิปนี้

ระวังโดนภาษีย้อนหลัง เพราะเข้าใจผิดว่า จ่ายภาษีแล้ว
ค่าบริการรวม Vat คืออะไร ลองมาดูคลิปนี้
ระวังโดนเรียกภาษีย้อนหลังเพราะไม่ได้ดูแลภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
สวัสดีครับทุกคน วันนี้ผมจะมาอธิบายเรื่องภาษีย้อนหลังที่หลายคนอาจจะต้องเผชิญในอนาคต โดยเฉพาะเมื่อได้รับเมลแจ้งจาก TikTok ที่กล่าวว่าจะมีการเก็บค่าบริการโดยรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) เข้าไปด้วย

ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่มจาก TikTok
หลายคนอาจจะเข้าใจผิดว่า TikTok จะออกภาษีให้เราในส่วนของรายได้จากการขายสินค้า แต่ในความจริงแล้ว TikTok จะรวมภาษีมูลค่าเพิ่มในค่าบริการที่ TikTok เรียกเก็บจากเราเท่านั้น การที่ TikTok แจ้งว่า “ค่าธรรมเนียมรวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว” นั้น หมายถึง TikTok เรียกเก็บค่าบริการที่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มไปแล้ว

ตัวอย่างการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม
เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น สมมุติว่าคุณขายสินค้าบน TikTok มูลค่า 1 ล้านบาท TikTok จะเรียกเก็บค่าบริการ 10% ซึ่งคือ 100,000 บาท ค่าบริการนี้รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว ดังนั้น TikTok จะเก็บเงินจากเรา 100,000 บาท และนำส่วนของภาษีมูลค่าเพิ่มไปจ่ายให้สรรพากร

ผู้ใช้บริการต้องรับผิดชอบภาษีในส่วนของรายได้จากการขายสินค้า
ถึงแม้ TikTok จะรวมภาษีมูลค่าเพิ่มในค่าบริการที่เรียกเก็บ แต่เรายังต้องรับผิดชอบในการจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มจากรายได้ที่ได้รับจากการขายสินค้า เช่น หากขายสินค้าได้ 1 ล้านบาท เราต้องจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ซึ่งคือ 70,000 บาท ให้กับสรรพากร

ผลกระทบหากไม่ยื่นภาษีตามกฎหมาย
หากเราไม่ยื่นภาษีมูลค่าเพิ่มตามที่กฎหมายกำหนด เราอาจจะถูกเรียกเก็บภาษีย้อนหลัง ซึ่งอาจมีผลกระทบอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อ TikTok จะเริ่มเก็บภาษีและรายงานยอดขายให้สรรพากรตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมนี้

สรุป
ผู้ประกอบการที่มียอดขายสูงควรตรวจสอบและยื่นภาษีให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกเรียกเก็บภาษีย้อนหลังและปัญหาทางกฎหมายในอนาคต

หากมีข้อสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ครับ และอย่าลืมติดตามบทความอื่นๆ ของเราเพื่อความรู้ทางภาษีที่ถูกต้องและทันสมัย


วางแผนภาษี นายหน้า Tiktok นายหน้า Shopee ทำไมรายได้เกิน3แสนต่อปี ควรต้องจดบริษัท ดีกว่าบุคคลอย่างไร

วางแผนภาษี นายหน้า Tiktok นายหน้า Shopee ทำไมรายได้เกิน3แสนต่อปี ควรต้องจดบริษัท ดีกว่าบุคคลอย่างไร

ความแตกต่างด้านการเสียภาษีระหว่างบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล
บุคคลธรรมดา
รายได้และภาษีที่เสีย:

รายได้ที่ได้จากการเป็นนายหน้าและเงินเดือนต้องรวมกันเพื่อคำนวณภาษี
มีการหักค่าใช้จ่ายตามอัตราที่กำหนด เช่น รายได้จากนายหน้าหักได้ 50% แต่ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี และรายได้จากเงินเดือนหักได้ 50% แต่ไม่เกิน 100,000 บาท
หากมีรายได้รวมเกิน 300,000 บาท จะต้องเสียภาษีในอัตราที่สูงขึ้นตามขั้นบันไดภาษี
ข้อจำกัดในการหักค่าใช้จ่าย:

การหักค่าใช้จ่ายของบุคคลธรรมดามีข้อจำกัด หักได้น้อยกว่านิติบุคคล
ตัวอย่างเช่น หากมีรายได้จากเงินเดือน 240,000 บาท และรายได้จากนายหน้า 100,000 บาท จะสามารถหักค่าใช้จ่ายได้รวมไม่เกิน 100,000 บาท
นิติบุคคล
รายได้และภาษีที่เสีย:

สามารถหักค่าใช้จ่ายตามจริงได้เต็มที่ ไม่มีข้อจำกัดเหมือนบุคคลธรรมดา
อัตราภาษีสำหรับนิติบุคคลเริ่มต้นที่ 15% เมื่อมีกำไรรวมเกิน 300,000 บาท
การจัดการภาษีที่ยืดหยุ่นกว่า:

สามารถบริหารจัดการรายได้และค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การจดทะเบียนบริษัทช่วยให้สามารถแยกค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจออกจากรายได้ส่วนบุคคลได้
ตัวอย่างและกรณีศึกษา
ตัวอย่างที่ 1:

หากคุณมีรายได้จากเงินเดือน 240,000 บาท และรายได้จากนายหน้า 100,000 บาท หากเป็นบุคคลธรรมดาจะหักค่าใช้จ่ายได้เพียง 100,000 บาท ซึ่งจะต้องเสียภาษีจากรายได้ที่เหลือ 240,000 บาท
แต่หากเป็นนิติบุคคล จะสามารถหักค่าใช้จ่ายตามจริงได้มากกว่า ทำให้กำไรที่ต้องเสียภาษีน้อยลง
กรณีศึกษานายหน้าประกัน:

นายหน้าประกันบางรายพยายามหักค่าใช้จ่ายให้มากขึ้นโดยยื่นรายได้เป็นประเภทที่หักค่าใช้จ่ายได้มาก เช่น รายได้จากการให้บริการที่สามารถหักค่าใช้จ่ายได้สูง
สรรพากรมีดุลพินิจในการพิจารณา หากพบว่ามีการยื่นรายได้ผิดประเภท อาจมีการเรียกเก็บภาษีย้อนหลัง
ข้อแนะนำ
สำหรับผู้ที่มีรายได้จากการเป็นนายหน้าเกิน 300,000 บาทต่อปี:

แนะนำให้จดทะเบียนบริษัทเพื่อลดภาระภาษี
การจดทะเบียนบริษัทช่วยให้สามารถหักค่าใช้จ่ายได้ตามจริง และมีโครงสร้างภาษีที่เอื้อต่อการบริหารจัดการภาษีได้ดีกว่า
การวางแผนภาษี:

หากมีค่าใช้จ่ายสูงจากการดำเนินธุรกิจ การจดทะเบียนบริษัทจะช่วยให้สามารถบริหารจัดการภาษีได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
แนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีเพื่อวางแผนการเสียภาษีอย่างถูกต้องและคุ้มค่า
สรุป
การจดทะเบียนบริษัทมีข้อดีในด้านการบริหารจัดการภาษีและค่าใช้จ่ายที่ดีกว่าการเป็นบุคคลธรรมดา
สำหรับนายหน้าที่มีรายได้สูง การจดทะเบียนบริษัทเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการลดภาระภาษีและเพิ่มความยืดหยุ่นในการจัดการธุรกิจ


สคบ. ประกาศ แกะดูสินค้าก่อนได้ แล้วค่อยจ่ายเงิน สินค้ามีปัญหา ขอคืนเงินได้

การแกะสินค้าก่อนจ่ายเงินปลายทาง (COD) ซึ่งเร็วๆ นี้อาจมีกฎใหม่ออกมาว่าลูกค้ามีสิทธิ์จะแกะสินค้าดูว่า “ตรงปก” หรือไม่ ก่อนที่จะจ่ายเงินปลายทาง โดยมุมมองนี้จะกล่าวถึงข้อดีข้อเสีย COD ของการอนุญาตให้ลูกค้าตรวจสอบสินค้าก่อนจ่ายเงิน

ข้อดีของการตรวจสอบสินค้าก่อนชำระเงิน
ลดการโกง: การให้ลูกค้าตรวจสอบสินค้าก่อนจะช่วยลดการโกงออนไลน์ เนื่องจากลูกค้าจะสามารถตรวจสอบว่าสินค้าตรงตามที่สั่งหรือไม่ เช่น สั่งกระโปรงเทนนิสแต่ได้รับผ้าขี้ริ้ว การตรวจสอบจะช่วยลดปัญหานี้ได้
ความพึงพอใจของลูกค้า: ลูกค้าจะรู้สึกมั่นใจมากขึ้นในการซื้อสินค้าผ่านออนไลน์ เพราะสามารถตรวจสอบว่าสินค้าตรงตามที่คาดหวังหรือไม่ก่อนที่จะจ่ายเงิน ลดความไม่พอใจและการร้องเรียน
ป้องกันการได้รับสินค้าปลอม: การอนุญาตให้ลูกค้าตรวจสอบสินค้าก่อนจ่ายเงินยังช่วยป้องกันการได้รับสินค้าปลอม หรือสินค้าที่คุณภาพต่ำกว่าที่คาดหวัง
ข้อเสียและความท้าทาย
ผลกระทบต่อผู้ขาย: ผู้ขายที่ซื่อสัตย์อาจต้องเผชิญกับการคืนสินค้าออนไลน์ มากขึ้น ซึ่งอาจทำให้ผู้ขายต้องรับภาระเพิ่มเติมในการจัดการกับการคืนสินค้า
ต้นทุนที่เพิ่มขึ้น: การจัดการกับการคืนสินค้า การตรวจสอบสินค้าคืน และการจัดส่งสินค้าใหม่ จะทำให้ต้นทุนการดำเนินงานเพิ่มขึ้น
การใช้ผิดวัตถุประสงค์ของลูกค้า: ลูกค้าบางรายอาจใช้ประโยชน์จากนโยบายนี้ เช่น สั่งสินค้าไปใช้ครั้งเดียวแล้วคืน หรือสั่งหลายๆ ชิ้นเพื่อเปรียบเทียบแล้วคืนสินค้าที่ไม่ต้องการ
ตัวอย่างและปัญหาในชีวิตจริง
นโยบายคืนสินค้าของ Tiktok: Tiktok อนุญาตให้ลูกค้ากดคืนสินค้าได้โดยไม่ต้องมีการยินยอมจากผู้ขาย ซึ่งอาจทำให้ลูกค้าใช้สินค้าแล้วคืน สร้างปัญหาให้กับผู้ขาย เช่น การคืนสินค้าที่ใช้งานแล้ว หรือการสั่งสินค้าหลายชิ้นแล้วคืนบางส่วน
เหตุการณ์เฉพาะ: มีการเล่าถึงเหตุการณ์ที่ผู้ขายเผชิญกับปัญหาการคืนสินค้า เช่น การขายไฟโซลาร์เซลล์เกรดพรีเมียม แต่ลูกค้าคืนสินค้าด้วยเหตุผลว่า “ไม่ตรงปก” ทั้งๆ ที่สินค้าเป็นไปตามที่โฆษณา ซึ่งสร้างความยุ่งยากให้กับผู้ขาย
ผลกระทบต่อประเภทสินค้าที่แตกต่างกัน
เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย: มีอัตราการคืนสินค้าสูงเนื่องจากปัญหาขนาดและความพอดี ลูกค้าบางรายอาจสั่งเสื้อผ้าไปลองใส่แล้วคืนหากไม่พอดีหรือไม่ถูกใจ
สินค้าอิเล็กทรอนิกส์: อาจได้รับสินค้าที่ถูกแกะหรือสลับชิ้นส่วนคืนกลับมา ทำให้ผู้ขายต้องรับภาระในการตรวจสอบและแก้ไขปัญหา
สินค้าราคาพรีเมียม vs ราคาต่ำ: สินค้าราคาต่ำมีแนวโน้มที่จะถูกตรวจสอบและมีอัตราการคืนสูงกว่าสินค้าราคาพรีเมียม เพราะลูกค้ามักจะระมัดระวังในการซื้อสินค้าราคาต่ำมากกว่า
การปรับตัวและกลยุทธ์ของผู้ขาย
บรรจุภัณฑ์ที่ดีขึ้น: ผู้ขายลงทุนในบรรจุภัณฑ์ที่ดีขึ้นเพื่อลดอัตราการคืนสินค้า และเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้าว่าสินค้าจะไม่เสียหายระหว่างการจัดส่ง
กระบวนการตรวจสอบ: การดำเนินการตรวจสอบอย่างเข้มงวดก่อนการจัดส่งเพื่อให้มั่นใจในความถูกต้องของสินค้า และลดปัญหาการคืนสินค้าที่ไม่ตรงตามคำสั่งซื้อ
ข้อเสนอพิเศษ: ผู้ขายอาจเสนอส่วนลดสำหรับการชำระเงินล่วงหน้าเพื่อลดการพึ่งพา COD และลดความเสี่ยงในการคืนสินค้า
บทสรุป
การปกป้องลูกค้าและไม่สร้างภาระเกินไปให้กับผู้ขายเป็นสิ่งสำคัญ หากนโยบายการแกะสินค้าก่อนจ่ายเงินปลายทางนี้ดำเนินการอย่างเหมาะสม อาจช่วยลดการโกงและเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าได้
ผู้ขายต้องปรับตัวและหาวิธีจัดการกับการคืนสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อไม่ให้เสียหายจากการคืนสินค้าที่ไม่ตรงปก
การสนับสนุนให้มีการพูดคุยและปรับปรุงนโยบายเพิ่มเติม เพื่อให้แน่ใจว่ามีการปฏิบัติที่เป็นธรรมในภาคการค้าอิเล็กทรอนิกส์ เป็นสิ่งสำคัญ
ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม
การสร้างมาตรฐาน: การสร้างมาตรฐานสำหรับการบรรจุภัณฑ์และการจัดส่งสินค้า เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจในคุณภาพของสินค้า
การให้ความรู้แก่ลูกค้า: ผู้ขายควรให้ข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับขนาด คุณสมบัติ และข้อจำกัดของสินค้า เพื่อลดปัญหาการคืนสินค้า
การปรับปรุงนโยบายการคืนสินค้า: การปรับปรุงนโยบายการคืนสินค้าให้เหมาะสมและยุติธรรมทั้งต่อลูกค้าและผู้ขาย เช่น การกำหนดเงื่อนไขการคืนสินค้าและการตรวจสอบสินค้า


สรุปเรื่องธุรกิจออนไลน์เดือน มิ.ย. เดือนแห่งการโหดร้าย ยิงแอดยังรอดไหมในครึ่งปีหลัง

สรุปเรื่องธุรกิจออนไลน์เดือน มิ.ย. เดือนแห่งการโหดร้าย ยิงแอดยังรอดไหมในครึ่งปีหลัง


เป็นเจ้าของธุรกิจ เงินเดือนต่อเดือนเท่าไหร่ รีวิวชีวิต CEO เจ้าของธุรกิจ Version สู้ชีวิต

เป็นเจ้าของธุรกิจ เงินเดือนต่อเดือนเท่าไหร่ รีวิวชีวิต CEO เจ้าของธุรกิจ Version สู้ชีวิต